Tag ตัวเอง
หลังจากรออยู่นาน ว่าจะมีใครมา Tag เราไหม ซึ่งเราก้อคิดไว้แล้วละว่าจะเล่าเรื่องอะไร แต่ก้อรอแล้ว รอเล่า ไม่มีใครจะมา Tag ฉันเลยอะ (อึม อึ้ม เส้าจิงๆ) แต่ไม่เป็นไร ถ้ารอใครมา Tag เราก่อน คงไม่ได้เล่นเกมส์ นี้อีกเป็นแน่ เพราะ มันใกล้จะ out แล้วก้อว่าได้ ด้วยเหตุนี้แล้ว ข้าพเจ้าจะไม่รออีกต่อไป แต่จะขอเล่น โดยเริ่มจากตัวเอง (อิอิ ทำไปได้) เพราะอยากเล่นม๊ากมาก เนื่องจากอยากแอบอยากรู้ความลับของคนอื่นๆ (อิอิ)
เริ่มต้นจาก เรื่องแรกก้อคือ จำได้ว่า ตอนเด็กๆ ไม่มีใครคิดว่า เราอะ เป็นผู้หญิงสักคน เริ่มตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาล ก้อมีคนมาทักแม่ว่า "โอ๊ย ลูกชายหรือคะ น่ารักจังเลย" แป๋ว อยากจะบอกว่า เจ๊ๆ ฉันเนี้ย ผู้หยิ่ง นะยะ ไม่ใช่ผู้ชายยยย เท่านั้นยังไม่พอ อีกสาเหตุหนึ่ง ก้ออาจเพราะว่า เท่าที่จำความได้ ตอนเด็กๆ เนี้ย ไม่เคยได้ไว้ผมยาวเลย ซึ่งเมื่อมันบวกกับหน้ากลมดิ้ก เป็นซาลาเปาเนี้ย เอาเป็นดูกันไม่ได้เลย หลังจากที่ได้ทำการปฏิวัติสำเร็จไปหนึ่งครั้ง ตอน ปอเตรียม (ไม่รู้ว่า ใครได้เรียน เตรียมประถม ในตอนนั้นบ้างนะ) ได้ไว้ผมยาวเป็นครั้งแรก แต่แล้วก้อเหมือนสวรรค์ลงสาป เมื่อไปรับเชื้อ "..เหา.." จากเพื่อนคนหนึ่ง หลังจากนั้นแล้ว ตลอดประถมศึกษา ดิฉันเคยมีผมยาวเกินบ่าเลย หม่อมแม่จะทำการเฉียนผม ออกทุกครั้งที่มันเริ่มเข้าเลยติ่งหู (เส้าจิงๆ) ด้วยเหตุนี้ละมั่ง ดิฉันถึงเป็นผู้ชาย ที่ใส่กระโป่ง ไปโรงเรียน ตลอดประถมศึกษา ...เห๋ย เซ็ง... (อายจิงๆ)
เรื่องสอง ก้อคือ จำได้ว่า ครั้งแรกที่เริ่มอ่านหนังสือสอบเหมือนชาวบ้านเค้าเนี้ย ก้อประมาณ เทอมสุดท้ายของประถมหก ตลอดระยะเวลาการเริ่มต้นเข้าเรียนหนังสือตั้งแต่สองขวบกว่าๆ เนี้ย ไม่เคยอ่านหนังสือสอบเลย แต่ผลการสอบก้อกลางๆนะ แบบว่า ทั้งห้องสามสิบคน ช่วงป.1-ป.3 เนี้ย ก้อประมาณ ที่ยี่สิบ (ภาษาจีน) และ ประมาณที่สิบเศษ (ภาษาไทย) (อิอิ ทำไปได้) คือ โรงเรียนเป็นแบบ international Thai-Chinese อะ (คือแบบว่า ตอนนั้น จีนเป็นคอมฯ เราเนี้ยโดนเพื่อนบ้านล้อบ่อยๆ ว่า พวกคอมฯ โห่ ไม่ค่อยเลย) ครั้งแรกที่อ่านหนังสือสอบเนี้ยนะ มันยังเป็นภาพติดตาอยู่เลย ที่บ้าน และคนแถวบ้าน ค่อนข้างตกใจมากๆ เหมือนเป็นอะไรที่ไม่มีใครเคยเห็นก้อว่าได้ แม่กับอาม่าข้างบ้านเนี้ย ตกใจกันใหญ่ ดูแลเราอย่างดี หาของบำรุงร่างกายอย่างสุดๆ แต่ก้อทำได้อยู่ประมาณ ไม่ถึงอาทิตย์อะ ก้อเลิก (เพราะสอบเสร็จแล้ว)
เรื่องที่สามนะ คือเป็นเรื่องราวที่ว่าต่อมาจากเรื่องที่สองละ ไม่รู้ว่าจะมีใครเคยเจอแบบนี้ไหมนะ ตอนป.1 เนี้ย ยังอ่านหนังสือไม่ออกเลย แม่กลุ้มใจมาก เลยไปขอพบคุณครูประจำชั้น เพื่อขอให้ลูกสาวผู้สาวผู้น่ารักคนนี้ "เรียนซ้ำชั้น" คุณครูก้องงๆ เพราะปกติแล้ว ไม่ค่อยมีใครเค้าทำกันหรอก จำได้ว่า แม่ไปอ้อนวอนคุณครูอยู่นาน แต่ด้วยเดชะบุญคุ้ม อิอิ แม่ทำไม่สำเร็จ เราก้อเลยได้ขึ้น ป.2 ตามเพื่อนๆ ไป
เรื่องที่สี่ แม้จะเป็นเด็กดื้อและซนอย่างสุดชีวิต (แบบว่า ซนสุดๆ จนโดนตีเกือบทุกวัน) แต่กลับเป็นคนที่ทำกิจกรรมอะไรแล้วไม่รุ่งเอาซะอย่าง เริ่มต้นจาก การเล่นดนตรีไทย ตลอดมัธยมต้น จนในปีสุดท้าย ได้ไปรวมงานดนตรีไทย กับสมเด็จพระเทพฯ ที่โรงเรียนวัดสุทธิฯ ด้วยนะ แต่อายมากๆ เลย เพราะดนตรีที่เล่นได้เพียงอย่างเดียว ภายหลังจากการพยายามมาตลอดสามปี ก้อคือ อังกะลุง นั่นเอง ตอนแรกด้วยความที่คิดว่า เราเนี้ย ผู้หยิง ผู้หญิง ดังนั้น ต้องนี่เลย ..ขิม.. คะ ขิม เล่นไปเล่นมา ไม้ขินหัก ต้องไปซื้อมาใช้คืนรุ่นพี่เค้าอีก (เส้าจิงๆ) ยังๆ ยังไม่เลิกความพยายาม เล่นต่อด้วย ระนาดเอก และระนาดทุ้ม แต่แล้วเหมือน ฟ้าไม่เป็นใจ เมื่อหัวไม้ระนาดกระเด็นกระดอน ออกจากตัวไม้ เอาเลิกๆ เอาใหม่ ตามมาด้วย ฆ้องวง คะ ฆ้องวง ผลก้อคืน ลูกตะกั่ว มันหลุด เพราะตีแรงไปหน่อย แต่ก้อยังไม่ลดละความพยายาม จะบอกว่า ตีฉิ่ง ให้เข้าจังหวะเนี้ย ยังตีไปตีมา มันตีมือตัวเอง ก้อเลยเลิกลาซะกับวงการดนตรีไทย ในปีสุดท้าย ก้อมาหัดเล่นกีฬาคะ จะบอกว่า เคยไปแข่งด้วยนะ ได้เหรียญเงิน (เพราะแข่งกันสองคน) กีฬาที่ว่า ก้อคือ ยูโด คะ จำได้ว่า ซ้อมแบบสุดๆ ตื่นไปยิม ตั้งแต่แปดโมงเช้า กลับบ้านตอนสามทุ่ม ทุกวันตลอด summer แต่สุดท้าย ความฝันนี้ก้อสิ้นสุด เมื่อวันที่ได้ขึ้นท่าทุ่ม (ตอนแรกตั้งใจว่า จะเล่นไว้ ป้องกันตัว เวลาถูกเพื่อนแกล้ง จะจับมันทุ่มซะ) เพื่อนสุดรักของเรา มันดันเล่นไม่เซฟ เลย เราเนี้ย ขาฉีก จนต้องเข้าโรงพยาบาล ไปโรงเรียนไม่ได้ตั้งเกือบสองอาทิตย์ รวมทั้ง วันต่อมานั้น คือวันเข้าค่าย ปีสุดท้ายของมอต้น เราเลิกอดไป แล้วยังต้องมานั่งทำรายงานส่งอีก ซวยจิงๆ
เรื่องสุดท้าย จำได้ว่า ตอนแรกที่ไปปิ๊งรุ่นพี่คนหนึ่ง ตอนม.1 เนี้ย แบบว่า เขินอายแบบสุดๆ เอาประมาณว่า เดินเข้าใกล้ในระยะร้อยเมตรเนี้ย ทำตัวไม่ถูกเลย แล้วทุกครั้งที่นั่งรถผ่านหน้าบ้านเค้าเนี้ย เพื่อนๆ เนี้ยล้อซะ จนบิดตัวเป็น ขนมโตเกียวเลย อย่างเขินเลยน๋านะ (ตอนเนี้ย ไม่เป็นละ หน้ามันเริ่มด้านและทนขึ้นทุกวัน อิอิ)
อะ เราอะ เล่าแล้ว คนต่อไปที่เราอยากรู้ก้อคือ taswan, orawan, Muffin, Pao, teddyboy อย่าลืม Tag นะแล้วเราจะตามไปดู อิอิ (เล่ามาเลย ห้าเรื่อง)
4 comments:
To Chibi Lunar
เรา Tag ตัวเองครบแล้วนะ มา comments ด้วย
แล้วโบนะรู้ไหมว่าแกทำแล้วอ่ะ ทำไมไม่ไปบอกที่บล็อกโบฟร่ะ
อ่าว หรือ
อิอิ ลืม ขอบใจที่บอก แป๋ว..ซะงั้น
อยากเห็นรูปพี่มี่ตอนเด็กๆอ่ะ
Post a Comment