Sunday, January 28, 2007

เคยชิน

นิทาน เรื่อง แฮม กับเนยแข็ง

ทั้งๆ ที่มนุษย์มีสติปัญญาไม่น้อย เราก้อยังเป็นสัตว์โลกที่ชอบทำอะไรตามความเคยชิน และไม่ค่อยยอมทิ้งแบบแผนพฤติกรรมเก่าๆ นิทานเรื่องนี้ จะยืนยันข้อนี้ได้ดี
.
มีอยู่วันหนึ่ง ลูกสาวกำลังดูแม่เตรียมจะอบแฮม

สักครู่หนึ่ง ลูกสาวก้อถามขึ้นว่า
"แม่คะ ทำไมแม่ต้องหั่นด้านหัวกับท้ายออกด้วย"
แม่ตอบว่า "ก้อแม่เห็นคุณยายทำอย่างนี้นะสิจ๊ะ"
ลูกสาว "แล้วทำไมล่ะคะ"
แม่ตอบ "ไม่รู้ซี ลองไปถามคุณยายแล้วกัน"

ทั้งคู่จึงไปหาคุณยายแล้วถามว่า "คุณยายคะ เวลาคุณยายเตรียมแฮม จะเอาไปอบเนี้ย ทำไมคุณยายต้องเฉือนปลายออกทั้งสองด้านด้วยล่ะคะ..."
"ก้อคุณยายเห็น แม่ของยายทำอย่างนี้นะสิ" คุณยายตอบ
"ทำไมล่ะคะ" เด็กน้อยยังถามอยู่
"ยายก้อไม่รู้สิ ลองไปถามคุณทวดก็แล้วกัน"

ทั้งหมดจึงพากันไปหาคุณทวด แล้วถามคุณทวดว่า
"คุณทวดคะ เวลาคุณทวดเตรียมแฮมจะเอาไปอบ ทำไมคุณทวดต้องเฉือนทั้งหัวทั้งปลายแฮมด้วยล่ะคะ"

"...อ้าว!..." คุณทวดตอบ "...ก็เพราะพิมพ์มันเล็กเกินไปน่ะสิ..."


บางทีเราก้อ หลงติดอยู่กับแบบแผนเดิมๆ ที่ถ่ายทอดกันลงมาหลายชั่วอายุคน และก้อวนเวียนอยูกับความเชื่อที่ล้าสมัยไปแล้ว ติดอยู่ในกรอบที่เรามองไม่เห็นโดยเราเองก้อไม่รู้ตัว กรอบเหล่านี้ คอยจำกัดไม่ให้เราคิดในแบบใหม่ๆ ดังอุปมาเรื่องต่อไปนี้


นิทาน เรื่อง หนูกับเนยแข็ง

กาลครั้งหนึ่ง ยังมีหนูอยู่ตัวหนึ่ง มันเป็นหนูธรรมดาๆ ไม่ได้ฉลาดอะไร เป็นพิเศษ แต่ชอบเนตแข็ง และมีความสามารถในการดมกลิ่นเนตแข็งเป็นเยี่ยม

อยู่มาวันหนึ่ง กลิ่นเนตแข็งชั้นดี ก้อตลบอบอวลไปทั่ว มันจึงลงนั่งยองๆ ทำจมูกฟุดฟิด แล้วก้อถามตัวเองว่า
"เอ๊ะ เนยแข็งอยู่ไหนนะ"

เบื้องหน้าของมันมีอุโมงค์อยู่ 4 ทาง มันรีบมุดเข้าไปในอุโมงค์ที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดทันที
...ไม่มีเนยแข็ง...

มันก้อลองเข้าไปในอุโมงค์ที่ 2
...ก้อ ไม่มีเนยแข็ง...

มันจึงมุดเข้าไปในอุโมงค์ที่ 3
...ก้อยัง ไม่มีเนยแข็ง...

เอาละ เหลืออุโมงค์สุดท้ายแล้ว มันรีบมุดเข้าไป
นั่นไง เนยแข็งก้อนโต ดูน่ากินที่สุด แถมยังมีรสชาติอร่อยสมกับที่มีกลิ่นหอมเสียด้วย

วันต่อมา กลิ่นเนยแข็งโชยมาอีกแล้ว

มันรีบผลุบเข้าไปในอุโมงค์ที่ 4 ทันที เจอแล้วเนยแข็ง แล้วก้อ เช่นเดียวกับวันต่อมา ต่อมา และก้อต่อมา หนูตัวนี้มีความสุขที่สุด เพราะมันรู้ว่าจะหาเนยแข็งกินได้ที่ไหน

วันหนึ่ง มันได้กลิ่นเนยแข็งโชยมาอีกแล้น แต่ปรากฏว่า ไม่มีเนตแข็งอยู่ในอุโมงค์เดิม มันรีบวิ่งออกมาดูให้แน่ใจอีกครั้งว่า นี่ใช่อุโมงค์ที่ 4 หรือไม่ แล้วมันก้อวิ่งกลับเข้าไป แต่ก้อยังไม่มีเนยแข็งอีก มันวิ่งกลับออกมา และกลับเข้าไปอีกเป็นครั้งสุดท้าย ...ยังไม่มีเนยแข็งอีก!...

แต่เดี๋ยวก่อน ยังมีกลิ่นเนยแข็งอยู่นี่น่า เอ๊ะ หรือว่าอยู่ในอุโมงค์ที่ 3 มันวิ่งเข้าไปดู แต่ก้อ ไม่มีเนยแข็ง แล้วอุโมงค์หมายเลข 2 ละ ก้อไม่มีเนยแข็งอีก หรือว่า ...จะเป็นอุโมงค์หมายเลข 1...
"นี่ไงเจอแล้ว เนยแข็งอยู่ในอุโมงค์หมายเลข 1 นี่เอง"

แล้วมันก้อกินเนยแข็งอย่างเอร็ดอร่อย


มองในแง่หนึ่ง มนุษย์เราก้อเหมือหนูตัวนั้น คือเราได้กลิ่นเนยแข็ง เราเล็งและตั้งเป้าหมาย หลังจากค้นหาอยู่พักหนึ่ง เราก้อพบ อุโมงค์ที่มีเนยแข็ง และเนยแข็งก้ออร่อยจริงๆ แต่ถ้าอยู่มาวันหนึ่ง เนยแข็งเกิดไม่ได้อยู่ตรงที่เดิมอีกแล้วล่ะ เราก้อ ยังมุดเข้าไปในอุโมงค์เดิมอีกครั้ง สอดส่ายสายตาและดมกลิ่นหา แต่ก้อไม่มีเนยแข็ง เราลองหาใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า

พอถึงจุดนี้ หนูก้อเริ่มลองเข้าไปดูในอุโมงค์อื่นๆ แล้วมนุษย์อย่างเราล่ะ ทำไม เรายังคงดันทุรังค้นหาอยู่ในอุโมงค์หมายเลข 4 ครั้งแล้วครั้งเล่า



<><><><><><><><><><><><><>



มาจากหนังสือเรื่อง
"YOUR MONEY OR YOUR LIFE" หรือ "เงินหรือชีวิต"


โดย โจโดมิงเกซ และวิคกี้ โรบิน (2006)


แปลโดย พล วงศ์พฤกษ์


บรรณาธิการ โดย นวลคำ จันภา





No comments: