ทิ้งท้ายปี bangkok fashion city

ภายหลังจะสิ้นสุดปีใหม่นี้แล้ว ลองมาดูซิ ว่า fashion trend ในไทยตอนนี้ กำลัง Hit อะไรกัน ก้อคงหนีไปพ้น "เอี๊ยม" อะนะ เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นเลยๆ ทั้งตามสถานที่ขายของวัยรุ่น เช่น สะพานพุทธ (แสนใกล้มหาลัย) และท่าพระจันทร์ (ที่เสมือนส่วนหนึ่งของธรรมศาสตร์) (ก้อไม่มีเวลาไปทำการสำรวจตลาดสักเท่าไรหรอกช่วงนี้ คนมันเจียมตัวอะนะ แต่ไว้วันหลังขยันๆ และจะไปเดินเล่น แล้วกลับมาเล่าให้ฟัง) มันน่าจะลากยาวไปถึงต้นปี 2007 เป็นแน่ๆ ก้อยังงี้ละ มาช่วงท้ายปี ถ้าจบเร็ว ก้อคงเซ็ง ทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภค (อธิบายโดยใช้เศรษฐศาสตร์ โชว์มันสมองนิด อะนะ) เพราะอะไรหรือ ก้อคิดดูละกัน เสียเงินซื้อมันมากะจะใส่สักหน่อย ถ้า out เร็ว วัยรุ่นอย่างเราๆ คงเสียดายทั้งกะตังค์ที่เสียไป แล้วไหนจะค่าความรู้สึกที่เงินซื้อไม่ได้อีกอะ ก้อแหม่ ก้อคงถูกหาว่า out นะซิ ยังไง ยอมไม่ได้ (คุณแม่ขอร้อง!) และคิดถึงใจผู้ผลิตนะ กะฟันกำไรสักหน่อย (แค่กำไรนะคะ) out ซะละ กลายเป็นสินค้า stock ต้องมานั่งระบายของอีก เซ็งกว่าเดิม

อะ อย่างมาเสียเวลามาพร่ามอยู่เลย ลองดูดิ จาก

www.bangkokfashioncity.com (ที่รัฐบาลในความทรงจำของเราๆ ได้ริเริ่มไว้) มี trend อะไร update ให้วัยรุ่นดูบ้าง (เธอเองก็ไป กอล์ป มาจาก นิตยาสาร ผ้หญิงบวก หรือ Woman Plus นั่นเอง)

อย่าเพียงแค่นี้เลย ไหนๆ ดูกันละ bkk fashion city แล้ว เธอเอง ก้อไม่ได้เป็นแค่ "กบในกะลา" นะยะ เค้ายังมีของที่อื่นๆ มา show เราอีก ไหนดูดิ มีอะไรบ้าง

เค้าสรุป trend จากหลายๆ แบรด์ว่า

Balenciaga มาในลุคสาวนักสู้ กับลายตารางที่ดุเรียบขึ้น
Marc Jacobes ต้องยกนิ้วให้กัยการไล่โทนสีให้ดูน่าสนใจบนผืนผ้าพันตัว
Moschino มาคราวนี้แอบซ่อนความหวานไว้ในปกเสื้อ และเดรสลายตาราง
DKNY แม้แต่สาวสปอร์ตคนนี้ ยังขออินเทรนด์ด้วยลายตารางสีแปลกตา
Burberry ผู้นำแฟชั่นลายตาราง ก็ยังปรับแพทเทินให้เรียบแต่ทันสมัยยิ่งขึ้น

ก้อมีประมาณนี้ละนะ พอหอมปาหหอมคอ (ก้อขี้เกียจแล้วละ) ถ้าใครสนใจอันไหนคิดจะตามก้อตามกันไปละกัน วันนี้พอแค่นี้ละเดียวจะถูกประณามว่า "ทำไม! ไม่ทำ thesis" ไว้วันหลังขยันๆ จะเอามา update ให้อีกละกันนะ

ขอบคุณวันวาน

ใกล้วันสิ้นปีเข้ามาทุกที นึกแล้วใจหาย รู้สึกว่าเวลามันผ่านไปอย่างกับกระพริบตา มันทำให้นึกถึงสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา
มีทั้งถูกทั้งผิด ดีและไม่ดี แต่สิ่งเหล่านั้น เป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้อีกต่อไป นอกจากจะยินดีและมีความสุขกับสิ่งที่มันเป็นอยู่ เพราะมันคือการตัดสินใจที่ดีที่สุด ภายใต้เงื่อนไขต่างๆ ณ เวลานั้น ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การเคารพการตัดสินใจของตัวเอง ด้วยการยิ้มกับทุกๆ สิ่งที่ได้ทำ มีความสุขกับทุกอย่างที่ได้เจอ คงจะทำให้เรามีชีวิตอย่างเป็นสุขกับปัจจุบัน ไม่จมอยู่กับความผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา แล้วกล้าพอที่จะบอกว่า
"Thank yesterday for giving my learning"
"Thank yesterday for giving my experience"
"Thank yesterday for giving my growth"
"Thank yesterday for giving my strong"
"Thank yesterday for today and my future,etc.."
"..Thank you so much.."
I love you yesterday.